ชวนเที่ยวในประเทศ ชุมพร ระนอง 4 วัน 3 คืน

ชวนเที่ยวในประเทศ ชุมพร ระนอง 4 วัน 3 คืน

วันแรก 8 ส.ค.: กรุงเทพฯ– บางสะพาน ประจวบฯ – บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน – เมืองระนอง
05.15 น.         พร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย
06.00 น.        ออกเดินทางโดยรถประจำทางปรับอากาศ มุ่งหน้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ใช้เวลาราว ๕.๕ ชม.
12.30 น.      รับประทานอาหารกลางวัน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ (มื้อที่ ๑) 
จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดระนอง ใช้เวลาราว ๓.๕ ชม.
17.00 น.    ให้ท่านผ่อนคลายจากการนั่งรถมาทั้งวันที่ บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำแร่ที่ไร้กลิ่นกำมะถัน อยู่ติดกับลำธารหาดส้มแป้นที่ไหลผ่านหุบเขาทางตะวันออกของตัวเมืองระนอง เกิดจากแหล่งความร้อนใต้โลกหรือหินหนืดที่อยู่ระดับตื้นกว่าปกติ เนื่องจากบริเวณนี้ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนระนองที่ยังมีการเคลื่อนตัวอยู่ น้ำฝนที่ซึมลงไปตามรอยแตกแยกของชั้นหินใต้ดินที่มีความร้อนสูงเมื่อน้ำที่ถูกกักเก็บอยู่ร้อนจนเดือด ก็จะเกิดแรงดันลอยขึ้นมาตามรอยแตกแยกของหินหรือรอยเลื่อนสู่ผิวดินนั่นเอง ชื่อ "รักษะวารินทร์" ได้รับนามพระราชทานจาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๐
    ที่นี่มีบ่อให้นั่งแช่เท้าได้ฟรี แต่ถ้าต้องการลงแช่ทั้งตัวจะมีค่าบริการเล็กน้อย  บรรยากาศรอบๆ บ่อน้ำร้อนยังเต็มไปด้วยธรรมชาติร่มรื่น มีลำธารไหลผ่าน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดีทีเดียว

18.00 น.    รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ ๓)
19.00 น.    เช็คอินโรงแรมที่พักในตัวเมืองระนอง 


วันที่สอง 9 ส.ค.: ภูเขาหญ้า – อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว -วัดบ้านหงาว – พระราชวังรัตนรังสรรค์ – บ้านซีอิ๊วตรานกแก้วของดีเมืองระนอง – วัดสุวรรณคีรีวิหาร- หาดทรายรี – ศาลกรมหลวงชุมพรฯ - ถนนคนเดินชุมพร
07.00 น.    รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ ๔) ณ โรงแรมที่พัก 
08.30 น.    ถ่ายรูปสวยที่ ภูเขาหญ้า หรือ เขาหัวล้าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองระนอง ดังที่ได้กล่าวไว้ในคำขวัญของเมืองระนอง “คอคอดกระ ภูเขาหญ้า กาหยูหวาน ธารน้ำแร่ มุกแท้เมืองระนอง” ภูเขาหญ้าเป็นภูเขาหัวโล้น ขนาดไม่สูงสามารถเดินขึ้นไปได้ เนินเขาแต่ละลูกมีทางเดินเชื่อมถึงกัน เมื่อขึ้นไปอยู่ด้านบนจะชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ ในหน้าฝนภูเขาหญ้าจะเป็นสีเขียวดูสวยงาม คล้ายกับภาพ wallpaper ยิ่งช่วงฝนตกใหม่ ๆ มีโอกาสได้เห็นสายหมอกลอยอ้อยอิ่งอีกด้วย ความมหัศจรรย์ของภูเขาหญ้าอยู่ตรงที่ภูเขาลูกนี้เป็นภูเขาหัวโล้นตามธรรมชาติ ไม่ได้เกิดจากการไปตัดต้นไม้จนโล้น และแนวต้นหญ้าที่ขึ้นเสมอกันราวกับมีคนมาปลูกไว้

09.15 น.    วัดบ้านหงาว วัดสวยกลางเมืองระนอง ตัวพระอุโบสถมี ๒ ชั้น รอบฐานพระอุโบสถเป็นหินแกะสลักเรื่องราวเมืองระนอง ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีรณังค์ มีความหมายว่า พระพุทธรูปดีบุกองค์ใหญ่เป็นสิริมงคลและศักดิ์ศรีของเมืองระนอง โดยชาวบ้านมักเรียกกันว่า หลวงพ่อดีบุก ทำจากแร่ดีบุกปริมาณ ๓ ตัน ซึ่งเป็นแร่สำคัญทางเศรษฐกิจของเมืองระนองในอดีต ด้านหลังพระอุโบสถมีบันไดปูน ๓๐๐ ขั้น สร้างขึ้นไปบนเนินเขา สำหรับใช้ในประเพณีตักบาตรเทโวของชาวระนอง และยังเป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ในมุมสูงได้ ๓๖๐ องศา
10.00 น.    ชม อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของจ.ระนอง เมื่อเดินผ่านผืนป่าดงดิบไปราว ๕๐๐ เมตร จะถึงน้ำตกชั้นล่างสุด ยามหน้าฝนน้ำ  จะไหลหลากอาบผาหิน สวยงามทีเดียว สถานที่นี้ยังเป็นแหล่งพบปูชนิดใหม่ของโลก คือ ปูเจ้าฟ้าและมีพรรณไม้ที่น่าสนใจคือ โกมาสุม หรือ เอื้องเงินหลวง
11.30 น.    บ้านซีอิ๊วตรานกแก้ว แบรนด์ดังที่เป็นตำนานคู่เมืองระนองมาเกือบ ๑๐๐ ปี ไปดูว่าเขาทำซีอิ๊วกันอย่างไร และทำไมถึงคงความนิยมได้ไม่เสื่อมคลาย
12.00 น.     รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ ๕) 
13.00 น.    เข้าชม พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) ซึ่งสร้างขึ้นมาใหม่แทนของเดิมที่ได้พังไป ที่ตั้งพระราชวังรัตนรังสรรค์เดิม จะอยู่ที่บริเวณศาลากลางเมืองระนอง สร้างขึ้นโดยพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซิมก๊อง) ปัจจุบันถูกรื้อสร้างเป็นศาลากลางระนองไปแล้ว 
     สำหรับพระราชวังรัตนรังสรรค์องค์จริงนั้น เป็นสถานที่ซึ่งรัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๗ เคยเสด็จมาประทับ สร้างด้วยไม้สักและไม้ตะเคียนทอง อาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Europe cabanas มีห้องต่างๆ ได้แก่ ท้องพระโรง ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ชั้น ๓) ห้องพระราชินี (ชั้น ๒) มีสะพานเชื่อมอาคารที่ประทับกับอาคารแปดเหลี่ยม 
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อมีหมายกำหนดการ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายตะวันตก เป็นครั้งแรกที่จะได้เสด็จฯ ไปถึงเมืองระนอง พระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง เจ้าเมืองระนอง) จึงสร้างที่ประทับรับเสด็จที่บนเนินควนอัน อยู่กลางเมือง สร้างล้วนด้วยไม้แก่นอย่างมั่นคง ประสงค์จะถวายเป็นราชพลีสนองพระเดชพระคุณซึ่งได้ทรงชุบเลี้ยงสกุลวงศ์มา รัชกาลที่ ๕ทรงประทับแรม ณ อาคารแห่งนี้เป็นเวลา ๓ ราตรี ระหว่าง ๒๓-๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๓ และมีพระดำรัสว่า “...ทำงดงามมั่นคงสมควรจะเป็นวัง ยิ่งกว่าจะเป็นพลับพลา...” จึงพระราชทานนามว่า “พระราชวังรัตนรังสรรค์” ให้เป็นเกียรติยศแก่เมืองระนอง และสกุลของพระยารัตนเศรษฐีด้วย และมีพระราชดำริว่า ที่เมืองระนองนาน ๆ จะเสด็จประพาสครั้งหนึ่ง วังทิ้งไว้เปล่าก็จะชำรุดทรุดโทรมเสีย จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นศาลารัฐบาล และทำพิธีสำหรับบ้านเมือง ต่อเมื่อมีการเสด็จประพาสเมื่อใดจึงให้จัดเป็นที่ประทับ

14.00 น.    วัดสุวรรณคีรีวิหาร หรือ วัดหน้าเมือง เป็นวัดแห่งแรกของเมืองระนอง และมีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปี โดดเด่นด้วย พุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ สีทองอร่ามที่ถอดแบบจากเจดีย์ชเวดากองแห่งเมียนมา และยังมี พระธาตุอินทร์แขวน องค์เทพทันใจ และ พระมหามัยมุนี องค์จำลองเให้ทุกคนไปกราบไหว้ด้วย
เดิมวัดแห่งนี้มีชื่อว่า วัดสุวรรณคีรีทาราม ตั้งอยู่ริมคลองหาดส้มแป้น อำเภอเมืองระนอง แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน มักเกิดน้ำท่วม และเมื่อน้ำลดก็ยังพบว่าน้ำในคลองขุ่นจากการทำเหมืองแร่เหนือคลอง วัดแห่งนี้จึงถูกทิ้งร้าง จนกระทั่งในสมัยที่ รัชกาลที่ ๕ เสด็จฯเมืองระนองเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๓ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง) เจ้าเมืองระนองในสมัยนั้น จัดหาที่ดินเพื่อสร้างวัดใหม่ และโปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาพระสงฆ์จากวัดสุวรรณคีรีทารามมาสวดถอนและผูกพัทธสีมา และพระราชทานนามให้ใหม่ว่า วัดสุวรรณคีรีวิหาร เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ ๒๔๓๗ 

  
15.30 น.    มาดูให้เห็นกับตา คอคอดกระ (กิ่วกระ) ส่วนที่แคบที่สุดของคาบสมุทรมลายู ตั้งอยู่ในเขตบ้านทับหลี ตำบลมะมุ อำเภอกระ  บุรี จังหวัดระนอง และ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร พื้นที่ในบริเวณ คอคอดกระ จะมีระยะทางจากฝั่งทะเลตะวันตกไปถึงฝั่งตะวันออกกว้างประมาณ ๕๐ กิโ  ลเมตร ส่วนที่อยู่ในไทยมีความกว้างเพียง ๙ กิโลเมตร ที่เหลืออยู่ในเขตปกครองของเมืองตระ ประเทศเมียนมา มีจุดตั้งแผ่นป้าแผนที่ให้เช็คอินถ่ายภาพ ซึ่งอยู่ห่างจากแม่น้ำกระบุรีที่เป็นเส้นแบ่งพรมแดนไทย-เมียนมา เพียง ๑๐๐ เมตร เท่านั้น จึงเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำกระบุรีอีกด้วย
17.30 น.    เดินทางถึงหาดทรายรี สักการะศาลเสด็จเตี่ย และชมเรือรบหลวงพระร่วงจำลอง สัมผัสธรรมชาติสวยงามของชายหาดและท้องทะเล และยังสำคัญในฐานะ สถานที่สิ้นพระชนม์ของพลเรือเอก พระบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ด้วยพระโรคไข้หวัดใหญ่ ประชวรอยู่เพียง ๓ วัน ก็สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ปีกุญ พ.ศ. ๒๔๖๖ ณ ที่ประทับ ตำบลหาดทรายรี
18.30 น.    อิสระเดินเล่น และรับประทานอาหารเองที่ถนนคนเดินเมืองชุมพร ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารและสินค้าโอทอปและสินค้าทั่วไป จัดทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ทั้งนี้เพื่อได้สัมผัสความเป็นอยู่ของชาวชุมพร และเป็นการกระจายรายได้
19.30 น.    เช็คอินโรงแรมที่พักในเมืองชุมพร


วันที่สาม 10 ส.ค. : ล่องทะเลชุมพร เกาะร้านเป็ดร้านไก่ อาหารทะเลปิ้งย่าง– เขามัทรี – งานเลี้ยง- พักชุมพร
07.00 น.    รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ ๖) ณ โรงแรมที่พัก 
08.00 น.    ออกเดินทางไปท่าเรือเกาะเตียบ
10.00 น.    ขึ้นเรือออกท่องทะเลชุมพร ดำน้ำดูปะการังที่เกาะร้านเป็ดร้านไก่ ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่า สวยที่สุดในประเทศ ณ เวลานี้ (สำหรับท่านที่ไม่ต้องการดำน้ำ เรือจะไปส่งขึ้นเกาะยอ ถ่ายรูปนั่งเล่นชมวิว รอรับประทาอาหารกลางวัน
12.00 น.    รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ ๗) นั่งห้อยขาลงทะเล อิ่มเอมกับซีฟู้ดปิ้งย่าง ปู กุ้ง หมึก บนเกาะยอ (หมายเหตุ บนเกาะมีห้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า)

16.00 น.    กลับมาผ่อนคลายอิริยาบถ ณ โรงแรมที่พัก
17.30 น.    ชมเขามัทรี เปลี่ยนเป็นรถท้องถิ่นขึ้นเขามัทรี ชมวิวเมืองชุมพร ๓๖๐ องศา บนเขามีรูปเคารพองค์เจ้าแม่กวนอิมปางมหาราชลีลา ที่งดงาม ร้านกาแฟถ้ำสิงห์ที่มีชื่อเสียงของชุมพร ท่ามกลางบรรยากาศโดยรอบสวยมาก ชิลชิล ยามเย็น 
18.30 น.    รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ ๘)


วันที่สี่ 11 ส.ค. : สะพานไม้เคี่ยม - หาดบางเบิด - พันธุ์สุขฟาร์ม – กลับถึง กทม.
07.00 น.    รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ ๙) จากนั้นเช็คเอ๊าท์
08.30 น.    นำท่านชม สะพานไม้เคี่ยม ในโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ตามพระราชดำริ เป็นสะพานที่อยู่ในบ่อน้ำแก้มลิงขนาดใหญ่ สร้างขึ้นมาจากไม้เคี่ยม ไม้เนื้อแข็งที่มีมากในภาคใต้ แข็งแกร่ง ทนทั้งน้ำจืดน้ำเค็ม ทอดยาว ๒๙๑ เมตร ไปเชื่อมต่อกับเกาะขนาดเล็กตรงกลางบ่อน้ำ มีลักษณะส่วนเว้าส่วนโค้งแปลกตา เป็นมุมถ่ายรูปที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาชุมพร
11.30 น.    รับประทานอาหารกลางวัน ริมหาดบางเบิด อ.ประทิว จ.ชุมพร (มื้อที่ ๑๐) 
16.30 น.    อิสระผ่อนคลาย ช้อปปิ้งของฝาก ที่ร้านพันธ์สุข ฟู้ด แอนด์ ฟาร์ม อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
19.30 น.    กลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

 

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม / จองตั๋วเครื่องบิน ได้ที่ Line OA คลิก : @rakyimtour

Tel.021717961, 021717962, 021717963

  • คุณรักษ์ โทร. 094-2492236
  • คุณเกด โทร. 090-9914787 
  • คุณเบล โทร. 062-5672275 
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
Share on social networks

ล่องเรือเจ้าพระยา