เดินทาง : 28 - 31 ธันวาคม 2567 (ปีใหม่)
** พีเรียดเดียว กรุ๊ปคอนเฟิร์มเดินทาง **
วันแรก | กรุงเทพ - อุดรธานี - หนองคาย - ด่านพรมแดน - เวียงจันทน์ - ประตูชัย - พระธาตุหลวงเวียงจันทน์- รถไฟด่วนลาว - จีน EMU - หลวงพระบาง (-/L/D) |
04.00 น. | คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ |
สายการบินนกแอร์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน | |
06.00 น. | เหินฟ้าสู่ ท่าอากาศยานอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยสายการบิน นกแอร์ เที่ยวบินที่ DD300 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง) |
07.05 น. | เดินทางถึง สนามบินอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี หลังจากรอรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว |
นำทุกท่านเดินทางสู่ จังหวัดหนองคาย โดยรถบัสหรือรถตู้ปรับอากาศต่อไปยัง ด่านพรมแดนหนองคาย ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำโขงด้วยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ชมวิวของแม่น้ำโขงที่หล่อเลี้ยงไทยและลาวมายาวนาน นำท่านเดินเข้าสู่ ด่านท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์โดยรถมินิบัส สู่เมืองหลวงของประเทศลาว เมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจ ธรรมชาติอันแสนสวยงาม สถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานระหว่าง ความเก่ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว จากนั้นนำท่านชม ประตูชัย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและอธิปไตยของลาว ชม อนุสาวรีย์ของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช (ในอดีตเรียกว่า "อานุสาวะลี") เป็นอนุสรณ์สถานตั้งอยู่ท้ายสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถนนล้านช้าง ใจกลางนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ก่อสร้างในระหว่างปี พ.ศ. 2500 ถึงปี พ.ศ. 2511[1] เพื่อเป็นการสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส ปะตูไซถูกตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านช้าง นำสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธ เช่น กินรี และพญานาค เป็นต้น และเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มาตกแต่ง บริเวณโดยรอบมีลานจัดการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีและสวนปะตูชัย | |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร |
นำท่านนมัสการ พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ องค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร สร้างเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า 27 พระองค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชทรงบูรณะขึ้นใหม่ภายหลังจากถูกพวกจีนฮ่อขุดหาสิ่งของมีค่ารื้อส่วนยอดพระธาตุลงมาถึงชั้นบัลลังก์ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกัน พระธาตุพนม ในประเทศไทย นับเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออกต่อด้วยเก็บภาพที่ระลึกหน้าประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคอมมิวนิสต์ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย ขึ้นบันไดไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ แวะนมัสการ เจ้าแม่ศรีเมือง วัดศรีเมืองสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2106 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้ลงความเห็นให้สร้างวัดศรีเมือง ณ ที่แห่งนี้ ต่อมาถูกกองทัพสยามทำลายลงในปีพ.ศ.2371 และสร้างวัดศรีเมืองขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ.2458 ภายในวัดศรีเมืองมีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานอยู่มากมายนับเป็นศาลหลักเมืองสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเวียงจันทน์ | |
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟเวียงจันทน์ | |
ออกเดินทางสู่ เมืองหลวงพระบาง โดยรถไฟด่วนลาว-จีน EMU ขบวนที่ ... **รอบรถไฟหรือเวลาการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลง** | |
xx.xx น. | เดินทางถึง สถานีรถไฟ เมืองหลวงพระบาง เมืองหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2538 ด้วยเหตุผลก็คือเมืองหลวง มีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนเป็นเอกลักษณ์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ซึ่งไหลบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และชาวเมืองหลวงพระบางมีบุคลิกที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร |
พักที่ โรงแรมอ่างทอง หรือเทียบเท่า | |
วันที่สอง | หลวงพระบาง – พระราชวังเก่าหลวงพระบาง – หอพระบาง – น้ำตกตาดกวางสี - พระธาตุพูสี - ตลาด NightMarket (B/L/D) |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านชมพระราชวังเก่าหลวงพระบาง หรือชาวเมืองหลวงพระบางเรียกว่าหอคำ เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิต ตั้งอยู่ตรงข้ามกับบันไดทางขึ้นพูสี แต่เดิมเคยเป็นพระราชวังหลวงที่เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2447 ในสมัยพระเจ้าสักกะริน และมาแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2452 ภายหลังเปลี่ยนระบอบการปกครองในประเทศลาวเมื่อ พ.ศ. 2518 รัฐบาลลาวได้ใช้พระราชวังหลวงนี้เป็นหอพิพิธภัณฑ์ และเปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 เพื่อนำมาแสดงให้เห็นวัตถุ ทรัพย์สินต่างๆของราชวงศ์ โดยแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่นห้องราชบัลลังค์ที่เสด็จประทับออกว่าการ ให้ข้าราชบริวารเข้าเฝ้า ต้อนรับแขกต่างบ้านต่างเมือง พิธีบายศรีสู่ขวัญ ใช้เป็นห้องพบปะกันของเชื้อสายราชวงศ์ ห้องพระซึ่งมีพระบางประดิษฐ์อยู่ ห้องโถงประดิษฐานพระพุทธรูปและวัตถุมงคลทางศาสนา ที่เป็นเครื่องราชบันนาการจากเมืองอื่นๆ นำท่านชมหอพระบางสร้างใหม่สวยงามสีเหลืองทองเขียวสดใส บันใดนาค ตรงกันข้ามเป็นโรงละครพะลัก-พะลาม มีอนุสาวรีย์พระเจ้าศรีสว่างวงศ์ อยู่หน้าโรงละคร และด้านในของหอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ เครื่องใช้ ต่างๆของพระองค์ ห้ามถ่ายภาพหอพิพิธภัณฑ์เมืองหลวงพระบาง ที่ในอดีตเคยเป็นพระราชวังหลวงที่พำนักของเจ้ามหาชีวิต(พระมหากษัตริย์) | |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร |
บ่าย | นำทุกท่านเดินทางสู่ น้ำตกตาดกวางสี น้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตรไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่นและบริเวณโดยรอบน้ำตกนั้นก็ยังป่าอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากตัวน้ำตกตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก (สามารถเล่นน้ำตกได้) จากนั้นนำท่าน สักการะพระธาตุพูสี ที่ประดิษฐานอยู่ด้านบนซึ่งเป็นจุดสูงสุดของยอดพูสีมีสีเหลืองทองอร่ามเรืองรองเมื่อถูกแสงแดดตกกระทบ เพื่อเป็นสิริมงคลต่อผู้กราบไหว้ และยังเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวหลวงพระบางให้ความเคารพมาก |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร |
นำทุกท่าน อิสระช้อปปิ้ง ที่และชมบรรยากาศถนนคนเดินเมืองหลวงพระบางยามราตรีได้ ที่ ตลาดมืด Night Market อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย | |
ได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก พักที่ โรงแรมอ่างทอง หรือเทียบเท่า | |
วันที่สาม | หลวงพระบาง – ตักบาตรข้าวเหนียว – ตลาดเช้า – วัดเชียงทอง – วัดวิชุนราช - รถไฟด่วน EMU – วังเวียง - ถ้ำปูคำ - บลูลากูน - แม่น้ำซอง (B/L/D) |
เช้าตรู่ | ตื่นเช้าไปร่วมทำบุญ - ตักบาตรกับชาวหลวงพระบางทุกเช้าชาวหลวงพระบาง ทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตัก บาตร พระสงฆ์ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆรูปซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง รวมค่าใส่บาตรข้าวเหนียวและชุดพื้นเมือง(ผ้าสไบ) |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านเดินทางสู่ วัดเชียงทอง วัดเก่าแก่ที่สวยงามด้วยศิลปะแบบล้านช้าง “หลังคาปีกนก” 3 ชั้น สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พ.ศ. 2102-2103 ภายในอุโบสถมีงานจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวในพระชาดกและนิทานพื้นบ้านสวยงามนอกจากนั้นภายในเขตวัดยังมีพอพระม่านซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน “พระม่าน” 1 ใน 3 พระพุทธรูปคู่เมืองของหลวงพระบางหอพระพุทธไสยาสน์ที่มีงานประดับกระจกสีเป็นลายเรื่องราวพื้นบ้านของชาวลาว และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์อายุกว่า 400 ปี พระธาตุศรีสว่างวงศ์ซึ่งเป็นสถานที่เก็บพระอัฐิของเจ้าเมืองในอดีต และโรงราชรถพระโกศหรือ “โรงเมี้ยนโกศ” โรงราชรถเจ้าเมืองโบราณ ภายในมีราชรถไม้แกะสลักปิดทองคำเปลว และภาพแกะสลักลงรักปิดทองตอนสำคัญต่างๆ ของมหากาพย์รามเกียรติ์ วัดแห่งนี้ยังได้รับการดูแลจากเจ้ามหาชีวิตสว่างวงศ์ ที่ได้รับการกล่าวขานและได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีโดดเด่นยิ่งนักความงดงามและทรงคุณค่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมของลาว | |
นำท่านเดินทางสู่ วัดวิชุนราช สร้างขึ้นโดยพระเจ้าวิชุนราชในราวปี พ.ศ. 2057 วัดนี้ผ่านการเผาทำลายโดยจีนฮ่อที่เข้า มาปล้นเมืองในอดีตและได้รับการบูรณะ ใหม่ในปี พ.ศ. 2457 โดยนายช่างชาวฝรั่งเศสผู้ที่ได้ทำการบูรณะนครวัด จุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุหมากโม พระธาตุที่มีลักษณะพิเศษคล้ายผลแตงโมคว่ำ คล้ายสถูปแบบฟองน้ำที่สาญจี ประเทศ อินเดีย พระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย ซึ่งพระธาตุหมากโมเคยถูกปฏิสังขรณ์มาแล้ว 2 ครั้ง ในปีพ.ศ.2402 รัชสมัยเจ้ามหาชีวิตสักรินทร์ (คำสุก) และบูรณะอีกครั้งในปีพ.ศ. 2457 รัชสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ซึ่งในการบูรณะครั้งนี้ ได้ค้นพบโบราณสถานศิลปวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน และโดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้ว เช่น เดียวกับพระแก้วมรกต ปัจจุบันโบราณวัตถุเหล่านี้ได้เก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบาง ในปัจจุบันได้เปิดส่วนหนึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเก็บรักษาโบราณวัตถุสำคัญๆ รวมไปถึง ซุ้มประตูโขง ในพระอุโบสถที่เป็นซุ้มประตูโขงที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ต่อด้วยเข้าชมหอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ชม พระราชวังหลวง ขึ้นในปีพ.ศ. 2477 เพื่อเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สร้างฐานซ้อนกันหลายชั้น หลังคามุงกระเบื้อง นับเป็นการผสมผสานความงดงามของตัวอาคารแบบฝรั่งเศสกับศิลปะแบบล้านช้างในตัว พระราชวังได้อย่างลงตัว เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ประทับอยู่ที่พระราชวังหลวงพระบางจวบจนสิ้นพระชนม์ | |
ได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านเดินทาสู่ สถานีรถไฟความเร็วสูง หลวงพระบาง เพื่อเดินทางสู่เมืองวังเวียง | |
xx.xx น. | ออกเดินทางสู่ วังเวียง โดยรถไฟลาว EMU ขบวนที่ .. **รอบรถไฟหรือเวลาการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลง** |
xx.xx น. | เดินทางถึง สถานีรถไฟเมืองวังเวียง เมืองวังเวียง เมืองแห่งขุนเขา ดินแดนสุขาวดี มีธรรมชาติงดงามด้วยภูเขาหินปูนสูงชันตั้งเด่นตระหง่าน และสายน้ำเมืองตากอากาศของทหารอเมริกาในสมัยสงครามเวียดนามเมืองที่ได้ชื่อว่า “กุ้ยหลินเมืองลาว” |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร |
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง ถ้ำปูคำ ตั้งอยู่ในเมืองวังเวียง ด้านหน้าถ้ำเป็นบริเวณลำน้ำสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจ มีร่มสำหรับนั่งพักผ่อน รวมถึงมีพื้นที่ลานกว้างสำหรับชาวต่างชาติมานอนอาบแดด จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง บลูลากูน (Blue Lagoon) หรือที่เรียกกันว่าสระน้ำจืดสีมรกต เป็นสระที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ น้ำในสระเป็นสีฟ้าหรือเขียวมรกตเพราะน้ำที่ผุดขึ้นมาจากบาดาลมีแหล่งกำเนิดมาจากภูเขาหินปูนที่โอบล้อมวังเวียงเอาไว้ ซึ่งในหินปูมีแคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งทำให้น้ำตกตะกอน จึงเหลือเพียงความใสบนผิวน้ำเท่านั้น (อิสระเล่นน้ำตามอัธยาศัย) |
|
จากนั้นนำทุกท่านได้พักผ่อน ล่องเรือชมวิวแม่น้ำซองกิจกรรมล่องเรือหางยาว ที่แม่น้ำซอง (Nam Song River) (รวมค่าล่องเรือหางยาวแล้ว) (กิจกรรมล่องเรือหางยาว 1 ลำนั่งได้2ท่าน ) แม่น้ำซองเป็นแม่น้ำสายหลักของเมืองวังเวียงหรือเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของเมืองวังเวียง ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหินปูนที่เรียกว่า “คาสต์” ลักษณะของหินปูนที่ถูกน้ำแซะละลายจนหลงเหลือเป็นภูเขาที่พื้นผิวเป็นหลุมเป็นบ่อ มีถ้ำและทางน้ำใต้ดิน มีความยาวประมาณ 36 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมทำกิจกรรมทางน้ำหลายอย่าง เช่น การนั่งเรือหางยาวล่องแม่น้ำซองชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ,กิจกรรมพายเรือคายัค, หรือ(อิสระเล่นน้ำตามอัธยาศัย) | |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร |
หลังอาหารค่ำ ทุกท่านสามารถท่องราตรีเมืองวังเวียง ตามอัธยาศัย | |
พักที่โรงแรม โรงแรมซิลเวอร์ นากา, SISOMBAT PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่า | |
วันที่สี่ | ถ้ำนางฟ้า-เวียงจันทน์ – ดิวตี้ฟรี – ด่านพรมแดน - สนามบินอุดรธานี - สนามบินสุวรรณภูมิ (B/L/-) |
นำท่านชม ถ้ำนางฟ้า (ANGEL CAVE) หลังจากข้าม "สะพานฟ้า" ถ้ำแห่งนี้ถือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สว่างไสวด้วยสปอตไลต์เจลซึ่งเต็มไปด้วย หินปูนขนาดใหญ่และมีหินย้อยตระการตาในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นในพระพุทธเจ้า ห้องครัว หรือสัตว์ และอื่นๆ เดินไปตามทางเดินในตรอกแคบๆ และเพลิดเพลินไปกับความน่าดึงดูดใจของหินงอกหินย้อยที่ซ่อนอยู่ในถ้ำแห่งนี้ | |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร |
เดินทางสู่ ด่านท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์ แวะดิวตี้ฟรีให้ท่านซื้อสินค้าปลอดภาษี จากนั้นข้ามแม่น้ำโขงด้วยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ชมวิวของแม่น้ำโขง ต่อไปยัง ด่านพรมแดนท่าเรือหนองคาย ผ่านพิธีตรวจคน นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอุดรธานี | |
21.05 น. | เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน นกแอร์ เที่ยวบินที่ DD311 |
22.05 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |
อัตราค่าบริการ
โปรโมชั่นพิเศษ ชำระภายใน 31 ตุลาคม 2567 เท่านั้น
กำหนดการเดิน | ราคาผู้ใหญ่ | พักเดี่ยว |
28 - 31 ธันวาคม 2567 | 4,500.- |
อัตราค่าบริการนี้รวม
อัตราค่าบริการนี้ ไม่รวม
เงื่อนไขการจอง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม / จองทัวร์ ได้ที่ Line OA คลิก : @rakyimtour
Tel.021717961, 021717962, 021717963